ประวัติบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด
บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ บริษัท อาเซียพณิชการ (ประกันภัย) จำกัด โดยให้บริการด้านการประกันอัคคีภัย และการประกันภัย ขนส่งทางทะเล ภายใต้การบริหารงานของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อรองรับความต้องการด้านการ ประกันภัยของบริษัทในเครือ คือ บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์ซีเดส เบ็นซ์ แต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย
ต่อมาในปี พ.ศ. 2522 ได้ขยายงานบริการ ด้านประกันภัยรถยนต์ และด้านประกันภัยเบ็ดเตล็ด โดยมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อน และสร้างหลักประกันความ มั่นคงให้แก่ประชาชนทั่วไปได้อย่างทั่วถึง
จากนั้นในปี พ.ศ. 2525 คณะกรรมการมีมติให้เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท อาเซียพณิชการ จำกัด เป็น บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด เพื่อให้สอดคล้องกับบริษัทแม่ คือ บริษัท วิริยะพานิช จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่าย น้ำมันทาไม้ตราปลาตะเพียน และยาแก้ไอวิริยะ
นับแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทฯ จึงดำเนินธุรกิจโดยให้บริการด้านการประกันภัยที่หลากหลาย มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคุลมลูกค้าทุกกลุ่ม ส่งผลให้บริษัทฯ มีความโดดเด่นในด้านผลการดำเนินงาน กระทั่งเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดใน "อันดับหนึ่ง" มายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ทั้งยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดไว้ได้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 19
ปัจจุบัน "วิริยะประกันภัย" เป็นบริษัท ประกันวินาศภัย ชั้นนำของประเทศไทย โดยมีเบี้ยประกันภัยรับกว่า 15,000 ล้านบาท มีทุนจดทะเบียนชำระเต็ม 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีเงินกองทุนสำรองมากกว่าที่กฎหมายกำหนดจำนวน 7,150 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553) พร้อมศูนย์บริการด้านอุบัติเหตุและสาขามากกว่า 122 แห่ง มีพนักงานมากกว่า 4,000 คน ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย และต่อมาในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2555 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ในชื่อ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)
การดำเนินธุรกิจด้วยความสำเร็จมากว่า 65 ปี นับเป็นหลักประกันอย่างชัดเจนถึงความพร้อม และความชำนาญ ด้านการประกันวินาศภัยของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามบริษัทฯยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนา และสร้างสรรค์การบริการ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดความพึงพอใจสูงสุดตาม นโยบายของบริษัทฯที่ว่า
ความเป็นธรรมคือ นโยบาย |